เป็นอีกหนึ่งคู่ที่ต้องเล่นกันไปยาวจนถึง 120 นาทีและตัดสินกันด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษ สำหรับเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก ยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศสคู่ระหว่าง เยอรมัน กับ อิตาลี โดยเป็นทางด้านของอินทรีเหล็กของ โยอาคิม เลิฟ ที่ทำได้ดีกว่าในการดวลเป้าเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 6-5 ได้ผ่านเข้าสู่รอบสี่ทีมสุดท้ายต่อไปเป็นทีมที่สามต่อจาก โปรตุเกส และเวลส์
อย่างไรก็ตามในส่วนของรูปเกมที่เกิดขึ้นในเวลา 90 นาทีและรวมอีก 30 นาทีของช่วงต่อเวลาพิเศษก็ถือว่า อินทรีเหล็ก ทำได้ดีกว่าเช่นกัน โดยเป็นฝ่ายครองบอลครองเกมได้มากกว่าถึง 59%-41% และสร้างสรรค์โอกาสยิงได้รวม 12 ครั้ง เข้ากรอบไป 5 ครั้ง ขณะที่ อัซซูรี่ ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ทำได้ 10 ครั้ง (เข้ากรอบไป 3 ครั้ง)
ไฮไลท์ประตูที่เกิดขึ้นเยอรมันได้ประตูออกนำ 1-0 จาก เมซุต โอซิล ในนาทีที่ 65 ก่อนที่อิตาลีจะมาตามตีเสมอได้จากโบนุชชี่ นาทีที่ 78 และ ผลบอล ก็หยุดอยู่เพียงเท่านี้ไปจนถึงครบเวลา 120 นาที
การดวลลูกโทษที่จุดโทษก็เป็นไปตามกล่าวเยอรมันเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 6-5 ทั้งสองทีมต้องใช้ผู้เล่นในการดวลเป้ามากถึง 9 คน คนที่ยิงเข้า 6 คนของทางฝั่งเยอรมันมีดังนี้ โครส, แดร็กซ์เลอร์, ฮุมเมิ่ลส์, คิมมิค, บัวเต็ง และเฮคเตอร์ ส่วนคนที่ยิงไม่เข้าสามคนมี มุลเลอ่ร์, โอซิล และชไวน์สไตเกอร์
ขณะที่ทางฝั่งอิตาลี 5 รายที่ยิงเข้าไปมี ลอเรนโซ่, บาซาญี่, คิเอลลินี่, บาโลโร่ และเด ซีโย่ ที่ยิงไม่เข้าสี่รายมี ซิโมเน่ ซาซ่า, กราเซียร์โน่ เปเล่, โบนุชชี่ และมัตเตโอ ดาร์เมียน
สำหรับเกมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายยังเหลืออีกหนึ่งคู่ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างทีมเจ้าภาพ ฝรั่งเศส กับ ไอซ์แลนด์ จะลงแตะในค่ำคืนวันที่ 3 กรกฎาคม นี้ ซึ่งหากว่าไม่มีอะไรผิดพลาดพลิกล็อกก็น่าจะสรุปกันได้ในเบื้องต้นว่าสี่ทีมในรอบชนะเลิศเป็นเวลส์ โปรตุเกส เยอรมัน และฝรั่งเศส
เมซุต โอซิล (Mesut Ozil): Dmytro Larin / Shutterstock.com