ดูท่าว่าจะต้องเผชิญกับกลยุทธ์ด้านสภาพอากาศอย่างเต็มรูปแบบซะแล้วสำหรับทัพช้างศึก ไทยแลนด์ ในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนเอเชีย 12 ทีมสุดท้าย เพราะหลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นทางด้านของ ซาอุดิอาระเบีย ที่มีข่าวว่าเตรียมเล่นงานไทยในการพบกับแมทแรกต้นเดือนกันยายน ด้วยการใช้สนามที่อยู่ในเมืองซึ่งมีอุณหภูมิร้อนระดับ 45-47 องศา ทั้งยังมีความแห้งแล้งมากๆไว้รอต้อนรับ
ล่าสุดเป็นทาง อิรัก อีกหนึ่งคู่แข่งร่วมสายเดียวกันที่มีข่าวออกมาว่าได้ทำการเปลี่ยนแปลงเมือง และสนามที่จะใช้แข่งขันรับเกมเหย้าที่จะดวลกับไทย วันที่ 11 ตุลาคม เช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะต้องอาศัย ประเทศอิหร่าน เป็นรังเหย้าชั่วคราวเนื่องจากถูกแบนห้ามแข่งในบ้านตัวเองก็ตาม
ทั้งนี้เกมในรอบที่ผ่านมาหรือรอบสองนั้น อิรัก ใช้ สนามปาซ สเตเดี้ยม ในกรุงเตหะรานเป็นรังเหย้าของพวกเขา
แต่สำหรับเกมในรอบสามนี้รายงานจากสื่อระบุว่าพวกเขาจะเปลี่ยนไปเลือกใช้สนามใน เมืองมัชฮาด แทน และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะใช้ สนามอิมาน ริซ่า สเตเดี้ยม ที่มีความจุผู้ชมกว่า 35,000 คน โดยสภาพอากาศในเมืองมัชฮาดช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วนั้นจะมีอากาศที่เย็นจัด อุณหภูมิเฉลี่ย 15-18 องศา นับว่าเป็นสภาพอากาศที่แข้งไทยไม่คุ้นเคยเลยทั้งยังมีความชื้นปกคลุมหนาแน่นอีกด้วย
อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องของสภาพอากาศแล้ว การเปลี่ยนแปลงเมือง และสนามเกมหย้าของอิรักครั้งนี้ ยังว่ากันว่าจะสร้างความยากลำบากในการเดินทางให้กับทัพช้างศึกเพิ่มขึ้นอีก เพราะก่อนหน้านั้นไทยจะต้องไปเล่นเกมเยือนพบยูเออีในวันที่ 6 ตุลาคม และเมื่อที่อยู่ไกลจากเตหะรานไปอีกพอสมควร ก็จะทำให้ไทยต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางเพิ่มมากขึ้น มีเวลาเตรียมตัวฝึกซ้อมและเวลาปรับตัวน้อยลงไป
แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ในเบื้องต้นโค้ชซิโก้ หัวหน้าผู้สอนทัพช้างศึกก็ได้ออกมากล่าวยืนยันแล้วว่า พร้อมรับมือกับเปลี่ยนแปลงสนามของอิรัก และจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลงานในสนามมากมายนัก